Home Gellery About Bhutan Webboard Contact Us
No Title
เปิดเว็บไซต์ 25/12/2013
ปรับปรุง 22/01/2022
สถิติผู้เข้าชม 20,329,658
Page Views 3,752,864
สินค้าทั้งหมด 6
 

เมนู

 
www.oshitourandtravel.com

www.oshitourandtravel.com
www.oshitourandtravel.com

วัดคิชู (Kyichu Lhakhang)

วัดคิชู (Kyichu Lhakhang)

วัดคิชู (Kyichu Lhakhang)
• วัดคิชู (Lhakhang แปลว่า วัด) ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของเส้นทางไปวัดตั๊กซังและดรุ๊กเกลซอง เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูฏาน เป็นโบสถ์โบราณซึ่งพระเจ้าซังเซน กัมโป กษัตริย์ทิเบตทรงสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 1212 เป็นโบสถ์หนึ่งในโครงการสร้างโบสถ์ 108 แห่ง ภายในหนึ่งวัน ตามที่ทรงตั้งพระปณิธานเอาไว้

• ตามตำนานเล่าวว่า ในรัชสมัยของพระเจ้าซองเซนกัมโปแห่งทิเบต พระองค์ทรงโปรดให้สร้างวัดทั้งหมด 108 แห่ง เพื่อ ตอกอวัยวะ 108 จุดของนางยักษ์ชั่วร้ายตนหนึ่ง ซึ่งนอนตีแผ่ทั่วเทือกเขาหิมาลัย เพื่อไม่ให้พุทธศาสนาได้เปล่งรัศมีในบริเวณดังกล่าว โดยเริ่มที่วัดโจคังในกรุงลาซา ประเทศทิเบต เมื่อปี ค.ศ. 638 เชื่อว่าตรงจุดนี้เป็นหัวใจของนางยักษ์ สำหรับในดินแดนภูฏานปัจจุบัน พระองค์ทรงโปรดให้สร้างวัด 2 แห่งขึ้นพร้อมๆ กัน ได้แก่ วัดจัมปาในบุมธัง และวัดคิชูในพาโร ซึ่งตั้งอยู่บนเข่าซ้าย และเท้าซ้ายของนางยักษ์ตามลำดับ การสร้างวัดนี้เพื่อเป็นการสยบฤทธิ์ของนางยักษ์นั่นเอง

• ประวัติวัดคิชูช่วงแรกๆ ยังคลุมเครืออยู่มาก เพิ่งจะมาเริ่มชัดเจนขึ้นในต้นศตวรรษที่ 13 สมัยที่ตกมาอยู่ภายใต้การดูแลของพระลามะสายฮาปา ครั้นถึงช่วงปลายศตวรรษ สายฮาปาก็พ่ายแพ้ให้ก้บสายดรุ๊กปะ วัดคิชูจึงตกไปอยู่ใต้อาณัติของพระลามะสายดรุ๊กปะนับจากนั้นเป็นต้นมา

• ปี ค.ศ. 1839 เจเค็มโปองค์ที่ 25 พระนามว่า เชรับ เกลเซ็น มีบัญชาให้บูรณะวิหารขึ้นใหม่และถวายรูปสลักพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรพันเนตรที่งามมากเป็นพุทธบูชา ปัจจุบันก็ยังประดิษฐานอยู่ภายในตัววิหาร

• ปี ค.ศ. 1968 เจ้านายฝ่ายในพระนามว่า อาชิชังเก โชเด็น วังชุก ทรงสร้างวิหารหลังที่สองขึ้นข้างๆ วิหารหลังแรก โดยมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมเหมือนกันทุกประการ

• โบสถ์วัดคิชูเคยถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะสร้างขึ้นใหม่ โดยอัญเชิญพระศากยมุนีเป็นพระประธานในโบสถ์ ต่อมามีการก่อสร้างวัดเพิ่มเติมอีกหลายครั้งหลายหน ล่าสุด สมเด็จพระราชชนนีได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อการบูรณะวัดให้มีสภาพดีต่อไป และทรงสร้างรูปปั้นของท่านคุรุรินโปเชสูงห้าเมตรเอาไว้ที่วัดนี้ด้วย

• วัดคิชู ประกอบด้วยโบสถ์ 2 หลัง ซึ่งหลังเก่าได้สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าซองเซนกัมโป และได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ส่วนหลังใหม่เป็นของพระราชชนนีในกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ทรงโปรดให้สร้างในปี ค.ศ. 1968 เพื่อเสด็จมานั่งวิปัสสนา

• ตรงข้ามประตูทางเข้าวัดคิชู มีอาคารหลังเล็กๆให้สาธุชนเข้าไปจุดตะเกียงน้ำมันเนยถวาย ผนังด้านในวาดภาพท้าวจตุโลกบาลธาราเทพ และเทพเก็นเย็น โดร์จี ดราดุลทรงม้าสีแดงฉานประดับเอาไว้ (เก็นเย็น โดร์จี ดราดุลเป็นเทพผู้ปกปักรักษาพุทธศาสนา) ก้าวข้ามประตูวัดเข้ามาจะพบลานเล็กๆ ทอดไปสู่วิหารทั้งสองหลัง กลางลานปลูกส้มเอาไว้ต้นหนึ่ง วิหารเก่านั้นตั้งอยู่ตรงข้ามประตูทางเข้าวัด ส่วนวิหารใหม่ตั้งอยู่ทางด้านขวา

• วิหารเก่าเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านเพราะความเก่าแก่และบทบาทความสำคัญที่มีมาโดยตลอด หินเทอร์ควอยซ์กับหินปะการังสวยๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายถูกนำไปฝังประดับไว้บนพื้นบริเวณที่จัดไว้ให้ศาสนิกชนทอดกายลงกราบไหว้สักการะผนังวาดเป็นภาพพุทธประวัติและภาพอดีตชาติของพระพุทธองค์

• ฝั่งซ้ายของหน้าต่างมีภาพบุคคลสำคัญ 3 ภาพ ข้างบนสุดเป็นภาพคุรุรินโปเช ถัดลงมาเป็นภาพซับดรุงงาวัง นัมเกล กับเดสิ ท่านแรกของภูฏาน ข้างล่างเป็นภาพเจเก็มโปองค์ที่ 25 ผู้บูรณะวัดคิชูแห่งนี้ขึ้นมาในปี ค.ศ.1839 ฝั่งขวาเป็นภาพพระพุทธเจ้ากับพระอรหันต์ 16 ท่าน มุมผนังด้านบนมีรูปเทพธิดาเซริงเหมะทรงสิงโตสีขาว (เทพธิดาอายุวัฒนะ ทรงสิงโตเป็นพาหนะ หัตถ์ถือวัชระกับแจกันน้ำอมฤต เป็นหนึ่งในห้าเทพธิดาแห่งเทือกเขาหิมาลัย คุรุรินโปเซเคยเสด็จมาปราบและโปรด ทำให้พวกนางหันมานับถือพุทธศาสนากันทั้งห้าพี่น้อง ภายหลังพวกนางได้พบกับมิลาเรปปะ จึงแสร้งทำทีคุกคามเพื่อลองใจ แต่มิลาเรปะยอมสละตัวให้พวกนางกินเป็นอาหาร ทำให้พวกนางซาบซึ้งทั้งเลื่อมใสจึงปวารณาตัวเป็นผู้ปกปักรักษาพระธรรมในพระพุทธศาสนา) ถัดลงมาเป็นรูปเทพเก็นเย็น โดร์จี ดราดุลทรงม้าสีแดง

• ภายในวิหารมีรูปประติมากรรมที่นับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่มากมาย โดยส่วนใหญ่เป็นรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางพันเนตรพันกร นอกจากนี้ยังมีพระรูปพระเจ้าชงเซ็น กัมโปะแห่งทิเบตกับรูปหล่อพระอมิตายุสประทับนั่งแสดงปางสมาธิ มีหม้อน้ำอมฤตวางอยู่ในพระหัตถ์ (อมิตายุส คือพระนามหนึ่งของพระอมิตาภะ แปลว่า อายุประมาณมิได้)

• ภายในตัววิหารไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าแต่จากข้างนอกยังพอมองเห็นรูปสลักพระโพธิสัตว์ทั้งแปดกับพระพุทธรูปโจโว (รูปพระพุทธองค์เมื่อครั้งพระชนม์มายุ 8 พรรษา) ได้ไกลๆ พระพุทธรูปโจโวของวัดคิชูมีลักษณะคล้ายกับพระพุทธรูปโจโวของวัดโจคังในกรุงลาซา ทิเบต และเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในภูฏาน

• วิหารใหม่นั้นสร้างถวายคุรุรินโปเซและวิธีกำราบพลังชั่วร้ายที่ท่านถ่ายทอดให้กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหา เรียกว่า กาเก ถือเป็นคำสอนสำคัญในพุทธศาสนานิกายญิงมาปะ ภายในวิหารมีรูปจำลองของคุรุรินโปเซและท่านดิลโล เค็นเซรินโปเซขนาดใหญ่โต

Tags : วัดคิชู Kyichu Lhakhang

OSHITOUR & TRAVEL CO.,LTD.
59/118 ชินเขต2 ถนนงามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210

                                             สงวนลิขสิทธิ์ :. © 2013 บริษัท โอชิทัวร์ แอนด์ ทราเวล จำกัด

Tel :. 099-6361499, 02-0011838
Email :. info@oshitourandtravel.com
ใบอนุญาตเลขที่ :. 11/10715


 
  
view